ตัวอย่างกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา ( ด้านวัฒนธรรม) หลักปฏิบัติ ตัวอย่างกิจกรรม
1. การนำเสนองาน กลุ่มที่ 2 2. ปรัชญา ของ เศรษฐกิจพอเพียง Sufficiency Economy 3. สมาชิกกลุ่มที่ 2 นางเครือมาศ เกิดโพชา รหัส 53121275048 เลขที่ 13 นายณรงค์ ขุนไชย รหัส 53131275052 เลขที่ 17 นางธัญวรัตม์ เทศนีย์ รหัส 53131275056 เลขที่ 21 นางนภรัตน์ จันทรขำ รหัส 53131275057 เลขที่ 22 นายมานพ เสือกล้า รหัส 53131275061 เลขที่ 26 นายสมชาย เมืองสุข รหัส 53131275067 เลขที่ 32 4. การประยุกต์ใช้ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5. โดยพื้นฐานคือ การพึ่งตนเอง เป็นหลัก การทำอะไรอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบ ระมัดระวัง พิจารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควร ความ สมเหตุสมผล และการพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงใน การสร้างสามัคคีให้เกิดขึ้น บนพื้นฐานของความสมดุล ในแต่ละสัดส่วน แต่ละระดับ ครอบคลุมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม รวมถึงจิตใจและวัฒนธรรม การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 6.
โพสต์ 10 ก. พ. 2557 22:49 โดยpawita kwanjai [ อัปเดต 20 ก. 2557 03:20] การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในระดับบุคคล เศรษฐกิจพอเพียงในระดับบุคคล คือ ความสามารถในการดำรงชีวิตได้อย่างไม่เดือดร้อนมีความเป็นอยู่อย่างประมาณตน ตามฐานะ ตามอัตภาพ และที่สำคัญไม่หลงใหลไปตามกระแสวัตถุนิยม มีอิสรภาพ เสรีภาพ ไม่พันธนาการอยู่กับสิ่งใด กล่าวโดยสรุปคือ หันกลับมายึด เส้นทางสายกลางในการดำรงชีวิตและยึดหลักการพึ่งตนเอง หลักการพึ่งตนเอง ต้องยึดหลักสำคัญของความพอดีเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง มี 5 ประการ คือ 1. ความพอดีด้านจิตใจ: ต้องเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้ มีจิตสำนึกที่ดี เอื้ออาท i ประนีประนอม นึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวม 2. ความพอดีด้านสังคม: ต้องมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนรู้จักผนึกกำลัง และที่สำคัญ มีกระบวนการเรียนรู้ ที่เกิดจากฐานรากที่มั่นคงและแข็งแรง 3. ความพอดีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบเพื่อให้เกิดความยั่งยืน สูงสุด และที่สำคัญใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศเพื่อพัมนาประเทศให้มั่นคงอยู่เป็นขั้นเป็นตอนไป 4. ความพอดีด้านเคโนโลยี: รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับความต้องการและควรพัฒนาเทคโนโลยีจาก ภูมิปัญญาชาวบ้านของเราเองและสอดคล้องเป็นประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมของเราเอง 5.
สามารถบริหารงานให้เติบโตสมดุลโดยโตสอดคล้องกับโลกภายนอก โดยไม่ขยายตัวเกินกว่ากำลังที่มีอยู่ หรือก็คือ ต้องมีประสิทธิผล ในทางการตลาด หรือ Marketing Effectiveness คือ การตามทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องมีสติ ความรู้ในการติดตามสิ่งใหม่ ที่เกิดขึ้นในโลก 2. ต้องแสวงหาความรู้กับสร้างความเข้มแข็งหรือเพิ่มความขยันขันแข็งในการทำงาน โดยมีการติดตามเทคนิควิทยาการ แล้วรู้จักเลือก ใช้เทคโนโลยีกับนำเอามา ประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ในการผลิตและการทำงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น หรือ ก็คือการเพิ่ม Production Efficiency 3.
การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงทางธุรกิจ ( ต่อ) 7) เน้นการจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับต่ำโดยการใช้เงินทุนภายใน องค์กรให้มากที่สุด 8) ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างประหยัดโดยมี การนำไปแปรใช้ใหม่ เน้นการพึ่งพาตนเองโดยใช้วัตถุดิบที่ปลูกเอง และแรงงานในท้องถิ่น 9) ผลิตเพื่อขายในตลาดท้องถิ่นให้มากที่สุดเสียก่อนและหลังจากนั้นจึง ค่อยไปสู่ตลาดระดับภูมิภาค ระดับประเทศและระดับโลกตามลำดับ 14.
รู้จักช่วยเหลือสังคมหรือชุมชน 6. สร้างสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ 7. สืบสานวัฒนธรรมไทย 8. ส่งเสริมพระพุทธศาสนา 17. ตัวอย่างกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา ( ด้านเศรษฐกิจ) หลักปฏิบัติ ตัวอย่างกิจกรรม
สวัสดี
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ในระดับบุคคลและครอบครัว 10.
การตลาด เช่น ลานตากข้าว ยุ้งข้าว เครื่องสีข้าว การจำหน่ายผลผลิต 3. การเป็นอยู่ เช่น กะปิ น้ำปลา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม 4. สวัสดิการ เช่น สาธารณสุข เงินกู้ 5. การศึกษา เช่น โรงเรียน ทุนการศึกษา 6. สังคมและศาสนา ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยราชการ มูลนิธิและเอกชน ขั้นที่ 3 ติดต่อร่วมมือกับแหล่งเงิน เช่นธนาคารและแหล่งพลังงาน เช่น บริษัทน้ำมัน เพื่อตั้งและบริหารโรงสี หรือตั้งและ บริหารสหกรณ์ ช่วยการลงทุน ช่วยการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้รับประโยชน์คือ 1. เกษตรกรขายข้าวได้ในราคาที่สูงเพราะไม่ถูกกดราคา ส่วนธนาคารกับ บริษัทซื้อข้าวได้บริโภคในราคาต่ำเพราะ ซื้อข้าวเปลือกโดยตรงจาก เกษตรกร และมาสีเอง 2.
ความพอดีด้านเศรษฐกิจ: เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายดำรงชีวิตอย่างพอควร พออยู่ พอกินสมควรตามอัตภาพ และฐานะของตน *********************************************************************************************************** การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในภาคเกษตรกรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงคิดค้น วิธีการที่จะช่วยเหลือราษฎรด้านการเกษตร จึงได้ทรงคิด " ทฤษฎีใหม่" ชึ้นเมื่อปี พ. ศ. 2535 ณ โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับการทำเกษตรให้แก่ราษฎร ในการจัดการด้านที่ดินและแหล่งน้ำในลักษณะ 30: 30:30: 10 คือ ขุดสระ 30 และเลี้ยงปลา 30 ปลูกพืชไร่พืชสวน 30 และสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย ปลูกพืชสวนและเลี้ยงสัตว์ใน 10 สุดท้าย ขั้นตอนในการปฏิบัติในภาคเกษตรกรรม ขั้นที่ 1 หลักสำคัญของขั้นนี้คือ ให้เกษตรกรมีความพอเพียง เลี้ยงตนเองได้ในระดับ ชีวิตที่ประหยัดก่อน มีการผลิตข้าวบริโภค พอเพียงประจำปี ขั้นที่ 2 เมื่อเกษตรเริ้มเข้าใจกระบวนการ ขั้นต่อไปก็คือ ให้เกษตรกรรวมพลังกันใน รูปกลุ่มหรือสหกรณ์ร่วมมือร่วมใจกันในด้าน 1. การผลิต เช่น พันธุ์พืช การเตรียมดิน ชลประทาน 2.